คำแนะนำในการเริ่มต้นใช้งาน Google

Google Ads คือโปรแกรมโฆษณาออนไลน์ของ Google ช่วยให้คุณสร้างโฆษณาออนไลน์เพื่อโปรโมตธุรกิจ ช่วยขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ และเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ได้

Google Ads เป็นแพลตฟอร์มโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก ซึ่งหมายความว่าคุณจ่ายก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณา ต้นทุนของโฆษณาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมของคุณ กลุ่มเป้าหมาย และคีย์เวิร์ดที่คุณเลือก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณได้ที่หน้าเกี่ยวกับต้นทุนค่า Google Ads

ในการเริ่มต้นใช้งาน Google Ads คุณต้องมีบัญชี Google Ads, งบประมาณ และเว็บไซต์ และคุณยังต้องเลือกเป้าหมายแคมเปญ ประเภทโฆษณา และคีย์เวิร์ดด้วย เมื่อตั้งค่าบัญชีและแคมเปญเสร็จแล้ว คุณก็เริ่มแสดงโฆษณาได้

หากต้องการสร้างบัญชี Google Ads ก่อนอื่นให้คลิกปุ่ม “เริ่มเลย” บนเว็บไซต์ของเรา จากนั้นป้อนข้อมูลทางธุรกิจของคุณ เช่น URL ของเว็บไซต์ จากนั้นเลือกเป้าหมายของแคมเปญ อัปโหลดชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณา และกำหนดงบประมาณ สุดท้าย ให้ป้อนวิธีการชำระเงินของคุณ เมื่อตั้งค่าบัญชีเรียบร้อยแล้ว คุณก็เริ่มสร้างและจัดการโฆษณาได้

หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Google Ads ให้ไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Ads

Merchant Center เป็นเครื่องมือฟรีที่ช่วยให้นักช็อปนับล้านใน Google ค้นพบ สำรวจ และซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณ คุณสามารถอัปโหลดและจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้โดยใช้บัญชี Merchant Center เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปรากฏใน Google Search, Maps, YouTube และอื่นๆ

การสร้างบัญชี Merchant Center และการแสดงผลิตภัณฑ์ใน Google นั้นไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด คุณสามารถเพิ่มและจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงได้โดยตรงจาก Merchant Center

และเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ จนพร้อมแล้ว คุณสามารถส่งเสริมข้อมูลที่แสดงในผลการค้นหาแบบทั่วไปได้ด้วยการใช้โฆษณาแบบชำระเงิน โฆษณาผลิตภัณฑ์แบบชำระเงินจะแสดงอย่างโดดเด่นและเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นไปอีก เมื่อใช้แคมเปญ Performance Max คุณสามารถเลือกเป้าหมายที่ต้องการบรรลุผลได้ และจ่ายไม่เกินงบประมาณรายเดือนสูงสุดที่ตั้งไว้

คุณต้องเป็นผู้ค้าปลีกที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านเว็บไซต์ หรือทำกิจการที่มีหน้าร้านจริง หรือมีครบทั้ง 2 อย่าง คุณต้องมีบัญชี Google เพื่อลงชื่อสมัครใช้ หากยังไม่มีบัญชี คุณสามารถสร้างขึ้นได้ฟรีที่หน้าสร้างบัญชี จากนั้นไปที่ Merchant Center เพื่อบอกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณให้เราทราบ เลือกจุดชำระเงินสำหรับลูกค้า (ในเว็บไซต์หรือที่ร้านค้าในพื้นที่ของคุณ) แล้วเพิ่มผลิตภัณฑ์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งานและวิธีจัดการผลิตภัณฑ์ในแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Google ได้ที่คู่มือการเริ่มต้นใช้งาน Google Merchant Center

เมื่อเพิ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์และได้รับการยืนยันว่าผลิตภัณฑ์มีสิทธิ์แล้ว ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะแสดงในแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Google เช่น Google Search, Google Maps, YouTube, แท็บ Google Shopping และ Google รูปภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งที่ผลิตภัณฑ์แสดงและข้อกำหนดโดยไปที่หน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับตำแหน่งที่ Google แสดงข้อมูลที่แสดงฟรี

Merchant Center เป็นเครื่องมือฟรีที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกเพิ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์และข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของตนปรากฏในแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Google ได้

หลังจากเพิ่มผลิตภัณฑ์แล้ว คุณจะใช้บัญชี Merchant Center เพื่อจัดการสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์ใน Google และรับรายงานและข้อมูลเชิงลึกที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณเกี่ยวกับประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ แนวโน้ม และการเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้

หากใช้ Shopify, Woo, PrestaShop หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นที่รองรับ คุณจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ลงใน Google ได้โดยอัตโนมัติเมื่อลิงก์ร้านค้าอีคอมเมิร์ซกับบัญชี Merchant Center การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอนาคตที่มีในผลิตภัณฑ์จะซิงค์กับ Google โดยอัตโนมัติ

หากไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มที่รองรับ Google จะเพิ่มผลิตภัณฑ์จากเว็บไซต์ของคุณได้โดยอัตโนมัติ หรือคุณสามารถเพิ่มข้อเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองผ่านไฟล์หรือสเปรดชีต หรือโดยการป้อนผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ

ไม่ Google เพียงแค่ช่วยให้ลูกค้าพบร้านค้าและผลิตภัณฑ์ของคุณเท่านั้น เมื่อลูกค้าสนใจซื้อสินค้าจากคุณ จะสามารถเข้าชมเว็บไซต์และดำเนินการตามกระบวนการการชำระเงินเช่นเดียวกับผู้เข้าชมเว็บไซต์คนอื่นๆ ซึ่งคุณจะต้องเป็นฝ่ายเลือกวิธีจัดส่งผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง

เมื่อพร้อมแล้ว คุณสามารถโปรโมตผลิตภัณฑ์ด้วย Performance Max ซึ่งเป็นแคมเปญการโฆษณาแบบชำระเงินที่ใช้ AI ของ Google เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม คุณสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างสมบูรณ์ และจะจ่ายก็ต่อเมื่อมีผู้มีส่วนร่วมกับโฆษณาของคุณเท่านั้น

คุณสามารถแก้ปัญหาที่พบได้ทั่วไป ทำความเข้าใจวิธีวัดผลลัพธ์ และแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายเพียงไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Merchant Center

Performance Max คือรุ่นใหม่ของแคมเปญ Smart Shopping และแคมเปญในพื้นที่ กล่าวคือเป็นแคมเปญประเภทหนึ่งที่อิงตามเป้าหมายเพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงพื้นที่โฆษณา Google Ads ทั้งหมดได้ในแคมเปญเดียว ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณพบลูกค้าที่ทำ Conversion จำนวนมากขึ้นจากทุกช่องทางของ Google เช่น Search, YouTube, Display, ฟีเจอร์สำรวจ, Gmail และ Maps

คุณสามารถเรียกใช้แคมเปญ Performance Max ได้โดยตรงจาก Merchant Center หากต้องการฟังก์ชันเพิ่มเติม คุณสามารถจัดการแคมเปญใน Google Ads ได้

หากใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopify, Woo หรือ PrestaShop คุณสามารถซิงค์ผลิตภัณฑ์และใช้งานแคมเปญ Performance Max โดยตรงจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้อย่างง่ายดาย

ใน Google Merchant Center แคมเปญ Performance Max ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เป้าหมายยอดขายออนไลน์ แต่หากจัดการแคมเปญใน Google Ads คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพตามเป้าหมายได้ตั้งแต่ 1 รายการขึ้นไป เช่น Conversion ออนไลน์และในร้านพร้อมกันจากแคมเปญ Performance Max แคมเปญเดียว ดูวิธีติดตามมูลค่าสำหรับเป้าหมาย Conversion ทั้งหมดของคุณได้ในหน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุดจากงบประมาณ

หากคุณมีฟีด Merchant Center ระบบจะใช้รูปภาพผลิตภัณฑ์ ราคา และรายละเอียดอื่นๆ ในการพัฒนาครีเอทีฟโฆษณาที่น่าสนใจสำหรับแคมเปญ Performance Max หากคุณใช้ Google Ads ในการจัดการแคมเปญ เราขอแนะนำให้จัดหาชิ้นงานเพิ่มเติม ยิ่งคุณระบุชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาคุณภาพสูงสำหรับข้อความ รูปภาพ และวิดีโอได้มากเท่าไร Performance Max ก็จะสร้างรูปแบบโฆษณาได้มากขึ้นเท่านั้น และโฆษณาจะแสดงในพื้นที่โฆษณาได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มผลลัพธ์สูงสุด

ใช้ประโยชน์จากแคมเปญให้ได้สุงสุดโดยทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำในหน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับแคมเปญ Performance Max ที่ทำงานด้วยระบบ AI สำหรับผู้ค้าปลีก

Business Profile เป็นเครื่องมือฟรีที่ช่วยให้คุณกำหนดวิธีที่ธุรกิจจะปรากฏใน Google Search และ Maps Business Profile ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้า โพสต์ข้อมูลอัปเดต แสดงรายการผลิตภัณฑ์และบริการ แชร์เมนู และอีกมากมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้ที่หน้าความช่วยเหลือของ Google Business Profile

การสร้าง Business Profile และข้อมูลธุรกิจของคุณใน Google ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด คุณอ้างสิทธิ์และจัดการธุรกิจได้โดยตรงจาก Google Search และ Maps เพื่อเริ่มเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

คุณสามารถใช้แอป Google Maps เพื่อจัดการ Business Profile ได้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ ส่วนในเดสก์ท็อป คุณก็จัดการโปรไฟล์ได้โดยตรงจาก Google Search ในเบราว์เซอร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการโปรไฟล์ของคุณได้ที่หน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการ Business Profile

ได้ คุณมีโปรไฟล์ได้ถึงแม้ว่าธุรกิจจะไม่มีที่อยู่จริง ตราบใดที่ให้บริการ ณ สถานที่หนึ่งๆ ได้ คุณยังมีโปรไฟล์ได้หากเป็นธุรกิจแบบผสมที่ให้บริการลูกค้า ณ ที่อยู่ธุรกิจ รวมทั้งออกให้บริการแก่ลูกค้าถึงที่ และยังมีโปรไฟล์ได้หากเป็นธุรกิจที่ให้บริการตามสถานที่ซึ่งออกให้บริการแก่ลูกค้าถึงที่ แต่ไม่ให้บริการลูกค้า ณ ที่อยู่ธุรกิจ เช่น บริการประปาหรือทำความสะอาดบ้าน ดูวิธีอ้างสิทธิ์และยืนยันโปรไฟล์หากคุณเป็นธุรกิจที่ให้บริการตามสถานที่ได้ในหน้าความช่วยเหลือของ Google Business Profile

คุณเพิ่มธุรกิจใน Google Search และ Maps ได้โดยการสร้าง Business Profile โปรไฟล์นี้จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มข้อมูลทางธุรกิจและจัดการวิธีที่ข้อมูลดังกล่าวปรากฏบน Google สร้างและจัดการโปรไฟล์ของคุณเลย

ปัจจุบันคุณอัปเดต Business Profile ได้โดยตรงจาก Google Search และ Maps เริ่มต้นด้วยการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ที่ใช้ในการยืนยันธุรกิจ ใน Google Maps ให้แตะรูปโปรไฟล์ที่มุมขวาบนในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และเลือก “Business Profile ของคุณ” เพื่อเข้าถึงเครื่องมือเหล่านี้ ใน Google Search ให้มองหาชื่อธุรกิจของคุณ หรือค้นหา “ธุรกิจของฉัน” เพื่ออัปเดตโปรไฟล์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการโปรไฟล์ได้จากหน้าความช่วยเหลือในการจัดการ Business Profile

ควร Business Profile ที่ให้บริการฟรีนี้จะช่วยส่งเสริมเว็บไซต์ของคุณด้วยการเพิ่มระดับการเข้าถึงให้กับเว็บไซต์ปัจจุบันของธุรกิจใน Google Search และ Google Maps

ธุรกิจส่วนใหญ่ยืนยันการเป็นเจ้าของโปรไฟล์ผ่านโทรศัพท์, SMS หรือโดยส่งคำขอรับไปรษณียบัตรจาก Google ไปยังที่อยู่ของตนเอง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันธุรกิจในหน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับ Google Business Profile

การยืนยันช่วยให้เราทราบว่าคุณเป็นเจ้าของโดยชอบธรรมของธุรกิจ คุณจึงจะมีสิทธิ์จัดการ Business Profile เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคุณ โดยจะไม่ให้ใครก็ตามนอกเหนือจากคุณหรือผู้จัดการที่คุณอนุมัติทำการอัปเดตโปรไฟล์

คุณตอบกลับรีวิวสำหรับธุรกิจได้หากจัดการและลงชื่อเข้าใช้บัญชี Business Profile บน Google เมื่อคุณตอบรีวิว คำตอบจะปรากฏใต้รีวิวของลูกค้าใน Google Search และ Maps ภายใต้ป้ายกำกับ “คำตอบจากเจ้าของ” ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตอบรีวิวในหน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับการอ่านและตอบรีวิวใน Google

คุณสามารถอัปเดตเวลาทำการใน Google ผ่าน Business Profile ได้โดยตรงจาก Google Search และ Maps คุณตั้ง “เวลาทำการเพิ่มเติม” แทนเวลาทำการพิเศษได้หากธุรกิจให้บริการบางอย่างในเวลาที่ต่างออกไป (เช่น เวลาทําการพิเศษสําหรับผู้สูงอายุ หรือเวลาที่ให้บริการจัดส่งหรือสั่งกลับบ้าน) ดูวิธีตั้งเวลาทำการได้ที่หน้าความช่วยเหลือเรื่อง “แก้ไขเวลาทำการ”

ใช่ Business Profile เข้ามาแทนที่ Google My Business, Google Places for Business, Google Listings และเพจ Google+ Business

ใช่ โปรแกรมพาร์ทเนอร์ที่น่าสนใจของเรานั้นเน้นย้ำถึงพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการที่มีคุณประโยชน์แก่ชุมชนผู้ขาย Business Profile ในวงกว้าง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาร์ทเนอร์ที่น่าสนใจของเรา

ได้ หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ให้นัดหมายกับ Google Advisor ที่ได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางเพื่อรับคำแนะนำสำหรับ Business Profile ของคุณรวมถึงพูดคุยเรื่องอื่นๆ แบบส่วนตัว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยไปที่เว็บไซต์ผู้ให้คำปรึกษาสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

คุณใช้ Google Ads เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นได้ ไม่ว่าจะขายอะไร Google Ads ก็จะดึงดูดผู้คนให้มาที่ธุรกิจของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าถึงของ Google Ads และสิ่งที่คุณทำได้ด้วยแคมเปญที่เหมาะสมในหน้าแรกของ Google Ads

Google Analytics (GA) เป็นเครื่องมือวัดผลที่ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้เข้าชมในเว็บไซต์และ/หรือแอปของตนได้ดียิ่งขึ้น เช่น รายงาน GA จะแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมออนไลน์ประเภทใดบ้างที่นำไปสู่การซื้อสินค้า รวมทั้งแสดงวิธีเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณ

Google Analytics ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย Google ยังนำเสนอเวอร์ชันแบบชำระเงินที่เรียกว่า Google Analytics 360 ซึ่งมีขีดจำกัดของข้อมูลที่สูงขึ้นและตัวเลือกการสนับสนุนขั้นสูงเพิ่มเติม

คุณต้องเข้าสู่ระบบบัญชี Google จึงจะสร้างบัญชี Google Analytics ได้ หากคุณยังไม่มีบัญชี Google ให้ดูวิธีสร้างบัญชีได้ในหน้าความช่วยเหลือ “ฉันจะสร้างบัญชี Google ใหม่ได้อย่างไร” หากต้องการสร้างบัญชี Google Analytics ให้ไปที่เว็บไซต์ Google Analytics หากเคยตั้งค่าบัญชี Google Analytics ไว้แล้ว คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่ได้โดยไปที่ผู้ดูแลระบบ (ที่ด้านล่างซ้าย) คลิกสร้าง แล้วคลิกบัญชี หากต้องการความช่วยเหลือในการตั้งค่าบัญชี Google Analytics ตามเวลาที่คุณสะดวกและปรับแต่งตามความต้องการของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนที่แสดงไว้ในหน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับการตั้งค่า Analytics สําหรับเว็บไซต์และ/หรือแอป

หากต้องการรับการฝึกอบรมและการสนับสนุนเกี่ยวกับ Google Analytics โปรดดูคู่มือการฝึกอบรมและการสนับสนุนเกี่ยวกับบัญชี Google Analytics 4

บัญชี Google Analytics จะมอบสิทธิ์เข้าถึงพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ของคุณ คุณมีบัญชี Analytics ได้อย่างน้อย 1 บัญชี (สูงสุดไม่เกิน 100 บัญชี) แต่ละบัญชีจะมีพร็อพเพอร์ตี้ได้สูงสุด 2,000 รายการ บัญชีหนึ่งจะมีพร็อพเพอร์ตี้หลายรายการหรือหลายประเภทก็ได้ แต่พร็อพเพอร์ตี้แต่ละรายการจะต้องอยู่ภายใต้บัญชี Analytics เดียวเท่านั้น พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics แสดงถึงเว็บไซต์และ/หรือแอป และเป็นที่จัดเก็บรายงานซึ่งอิงตามข้อมูลที่คุณเก็บรวบรวม Analytics ประมวลผลข้อมูลในระดับพร็อพเพอร์ตี้ และพร็อพเพอร์ตี้สามารถผสานรวมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ได้ เช่น Google Ads ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับลำดับชั้นของ Google Analytics

Google Analytics 4 (GA4) เป็น Google Analytics รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าในอุปกรณ์และแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น หากสร้างบัญชี Google Analytics ใหม่ในวันนี้ บัญชีดังกล่าวจะเป็นพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4

Universal Analytics (UA) คือ Analytics รุ่นก่อนหน้า ซึ่งเป็นประเภทพร็อพเพอร์ตี้เริ่มต้นสำหรับเว็บไซต์ก่อนวันที่ 14 ตุลาคม 2020 และจะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป

Google Analytics 360 เป็น Google Analytics เวอร์ชันแบบชำระเงิน ซึ่งให้การสนับสนุนขั้นสูงและขีดจำกัดของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ โดยรวมฟีเจอร์ทั้งหมดของ Google Analytics มาตรฐานไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันการทำงานและฟีเจอร์ต่างๆ ได้ในเว็บไซต์ Analytics 360

YouTube Ads เหมาะกับงบประมาณทุกระดับ และคุณกำหนดจำนวนเงินที่ตัวเองต้องการใช้จ่ายได้เสมอ นอกจากนี้ คุณยังมีตัวเลือกในการตั้งค่าบัญชีให้เรียกเก็บเงินโดยอัตโนมัติหรือชำระเงินด้วยตนเอง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายได้ในหน้าความช่วยเหลือ “ศึกษาตัวเลือกการเรียกเก็บเงิน” ราคาของโฆษณาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบที่คุณเลือก ดูข้อมูลเกี่ยวกับราคารูปแบบโฆษณา

ใช่ Google Ads ช่วยให้ธุรกิจแสดงโฆษณาได้ทั่วทั้งแพลตฟอร์มโฆษณาของ Google ซึ่งรวมถึง YouTube ด้วย หมายความว่าคุณจะสร้าง เผยแพร่ และจัดการแคมเปญ YouTube Ads ได้ด้วยบัญชี Google Ads หากยังไม่มีบัญชี โปรดลงชื่อสมัครใช้ในหน้าลงชื่อสมัครใช้ Google Ads

โฆษณาจะแสดงในแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับรูปแบบโฆษณาที่คุณใช้ เช่น โฆษณาบางรูปแบบจะแสดงก่อน ระหว่าง หรือหลังจากที่วิดีโอของผู้ชมได้เล่นไปแล้ว ขณะที่บางรูปแบบจะปรากฏในฟีดบนหน้าแรกของ YouTube ดูข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบโฆษณา YouTube เพื่อการรับรู้ การพิจารณา และการดำเนินการ

เมื่อเริ่มแคมเปญ คุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือฟรีที่จะช่วยวัดประสิทธิภาพแคมเปญได้

แน่นอน เมื่อตั้งค่าแคมเปญ YouTube Ads คุณจะเลือกผู้ที่คุณต้องการให้เห็นโฆษณาได้ตามอายุ สถานที่ ความสนใจ และอื่นๆ ดูวิธีใช้โฆษณาวิดีโอเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนที่เหมาะสมในหน้า YouTube เกี่ยวกับการค้นหากลุ่มเป้าหมาย

ใช่ คุณจะต้องอัปโหลดโฆษณาวิดีโอลงในช่อง YouTube ของตัวเองก่อนจะสร้างแคมเปญ ดูวิธีสร้างช่องและอัปโหลดวิดีโอได้ที่หน้าความช่วยเหลือในการสร้างช่อง YouTube

คุณใช้เครื่องมือครีเอทีฟโฆษณาฟรีของ YouTube เพื่อสร้างโฆษณาวิดีโอของตัวเองได้ หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม พาร์ทเนอร์ครีเอทีฟโฆษณาที่เชื่อถือได้ของเราสามารถช่วยคุณตัดต่อวิดีโอและรูปภาพที่มีอยู่ให้เป็นโฆษณา หรือสร้างโฆษณาขึ้นใหม่ได้

YouTube Live เป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมในการมีส่วนร่วมกับผู้ชมได้แบบเรียลไทม์ด้วยฟีดวิดีโอ แชท และอื่นๆ หากต้องการเริ่มไลฟ์สดจากคอมพิวเตอร์ ให้ไปที่ YouTube จากนั้นคลิก “สร้าง” ที่ด้านขวาบน แล้วคลิก “ถ่ายทอดสด” หากยังไม่ได้ยืนยันช่อง ให้ทำตามข้อความที่ปรากฏเพื่อยืนยันช่อง การเปิดใช้ไลฟ์สดครั้งแรกอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้แล้ว คุณจะไลฟ์สดได้ทันที ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไลฟ์สดได้ในหน้าความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเริ่มไลฟ์สด

ขณะนี้การโปรโมตวิดีโอพร้อมใช้งานสำหรับทุกช่องที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของฟีเจอร์ขั้นสูงบน YT และมียอดติดตามมากกว่า 1 พันคน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ขั้นสูงได้ในหน้าความช่วยเหลือเรื่องสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือและฟีเจอร์ของ YouTube

การโฆษณาเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้นที่ครีเอเตอร์สามารถใช้เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ชมและการมีส่วนร่วม ดูแนวทางปฏิบัติแนะนำในการเพิ่มยอดดู/ผู้ติดตามให้กับช่องได้ที่หน้าความช่วยเหลือในการโปรโมตวิดีโอ

ครีเอเตอร์สามารถสร้างแคมเปญโฆษณาแบบง่ายๆ สำหรับวิดีโอได้ภายในแท็บการโปรโมตใหม่ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยัง Google Ads เพื่อช่วยให้การซื้อโฆษณาเป็นเรื่องง่ายขึ้น หากคุณต้องการใช้รูปแบบโฆษณาเพิ่มเติมหรือตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายขั้นสูง ให้พิจารณาสร้างแคมเปญใน Google Ads

รองรับเฉพาะโฆษณาวิดีโอในฟีด ไม่รองรับโฆษณาในสตรีม ผู้ใช้ต้องมีส่วนร่วมกับโฆษณาจึงจะเข้าถึงหน้าดูวิดีโอหรือสมัครใช้บริการได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างและจัดการการโปรโมต